แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คือ ข้าวโอ๊ตมี สารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า “อาวีนันทราไมต์” (Avenanthramide) แค่ชื่อก็ไม่ธรรมดาแล้ว แถมเจ้าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ยังพบแค่ในข้าวโอ๊ตเท่านั้น
หาในธัญพืชชนิดอื่นๆไม่ได้ว้าว…บอกเลยนะว่าเจ้านี่สตรองไม่แพ้ใครเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาทำความรู้จักกับเจ้าสารต้านอนุมูลอิสระชื่อยาวๆนี้กันเลย
ข้าวโอ๊ตบำรุงผิวได้ด้วยนะ
ย้อนกลับไปไกลสักหน่อย เมื่อ 2000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวกรีกและโรมันโบราณใช้ครีมอาบน้ำที่ทำมาจากข้าวโอ๊ต เพราะทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น สุขภาพดี
และที่สำคัญมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองผิวกันมานานหลายร้อยปีแล้ว เอ๊ะ…ข้าวโอ๊ตลดผดผื่นได้ด้วยหรอ? บอกเลยว่าข้าวโอ๊ตได้ผ่านการทดสอบจากแพทย์แล้ว
ว่าช่วยในเรื่องของผิวแห้ง อาการคัน และต่อต้านการอักเสบ จึงเป็นสาเหตุให้ปัจจุบันหลายๆคนใช้ข้าวโอ๊ตเพื่อบรรเทาโรคที่เกิดกับการระคายเคืองผิวหนังชนิดต่างๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเจ้าอาวีนันทราไมต์ผนึกรวมกับวิตามินอีก็ยิ่งช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์ สดใส บริ๊งๆ ไปอีก
ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ลดความเสี่ยงโรคต่างๆ นอกจากเรื่อง beauty แล้ว เจ้าอาวีนันฯ สารต้านอนุมูลอิสระตัวฉกาจยังช่วยทำลายอนุมูลอิสระและป้องกันหลอดเลือดแข็ง (atherosclerosis)
ช่วยเสริมให้หัวใจของเราแข็งแรง การศึกษาของโครงการ The Nurses’ Health Study ชี้ให้เห็นว่า นอกจากการกินข้าวโอ๊ตเป็นประจำจะช่วยลดคอเลสเตอรอลแล้วยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
ไม่ใช่เพราะใยอาหารชนิดละลายน้ำในข้าวโอ๊ตเท่านั้น แต่เป็นเพราะสารต้านอนุมูลอิสระอาวีนันฯด้วย ยิ่งไปกว่านั้นข้าวโอ๊ตยังเป็นแหล่งซีลีเนียมที่มีส่วนซ่อมแซมดีเอ็นเอ และลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่
เห็นไหมล่ะคะว่า ข้าวโอ๊ตไม่ได้เป็นแค่อาหารเช้าที่ให้พลังงาน และสารอาหารที่จำเป็นกับร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกมากมายที่หลายคนคาดไม่ถึง
รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมหาข้าวโอ๊ตมาทานกันนะ หรือง่ายๆ แค่ดื่มน้ำ Malee Nutrient นมข้าวโอ๊ตผสมลูกเดือย ได้ประโยชน์สองต่อจากทั้งข้าวโอ๊ต และลูกเดือยเลย!
ขอบคุณข้อมูลจาก